สละ “ตัวตน”

เราตั้งเป้าหมายขึ้นมาจากมโน…เราเดินไปตามทางที่มีเป้าหมายนั้นๆปักอยู่
เราผ่านเป้าหมายนั้นได้ ….เราตั้งเป้าหมายใหม่….​และวนลูปกลับที่เดิม …

อันที่จริง
การที่เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นจะเกิดขึ้นได้นั้น ย่อมประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ฟ้ากับดิน
1. ฟ้า คือ สิ่งแวดล้อมที่เราควบคุมมันไม่ได้ เช่น ฝนตก อุบัติเหตุ ฯลฯ​
2. ดิน คือ สิ่งที่เราสามารถควบคุมมันได้ เช่น การป้องกัน การตอบสนอง การตัดสินใจ

ทั้ง 2 ส่วน มีส่วนประกอบอีก คือ สถานที่ เวลา และ คน

เมื่อปัจจัยมาผนวกกัน ฟ้า ดิน ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เวลาใดเวลาหนึ่ง กับคนใดคนหนึ่ง กลายเป็นเหตุการณ์ขึ้นมา

สิ่งที่สำคัญตรงนี้ คือ “คน”
คนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความนึกคิดซึ่งหล่อหลอมผ่านกาลเวลาและสภาพแวดล้อมในแต่ละช่วงวัย
กลายเป็น “คนที่มีบุคลิกนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง”
แต่ถึงแม้ว่าจะแตกต่างกันในด้านบุคลิกลักษณะ
อารมณ์ เป็นภาวะธรรมชาติที่มีในตัว “คน”ใกล้เคียงกันแม้จะมากน้อยต่างกันก็ตาม

ระหว่างการเติบโตขึ้นมา เราจึงได้สร้าง ตัวตน ผ่าน อารมณ์ และ ความนึกคิด จากเหตุการณ์ที่เจอในชีวิต
จนทั้งสามมีความสนิทแนบแน่นกันไปโดยปริยาย

…….
เมื่อมาถึงการสละตัวตน หากเกิดขึ้น (การไม่เห็นแก่ตัวเองอีกต่อไป)
นั่นจึงหมายถึง มันจะเป็นการสละออกซึ่งอารมณ์และความนึกคิดไปด้วยในตัว

กลับกัน
การสละออกซึ่งอารมณ์และความนึกคิด = การสละตัวตน ด้วยเช่นกัน

บางทีสิ่งที่สละยากที่สุด คือ ตัวตน
และบางที สิ่งที่สละง่ายที่สุด ก็คือ ตัวตน เช่นกัน
สุดท้าย มันไม่ต้องพยายามทำอะไร แม้กระทั่งการสลัดมันทิ้ง
เพราะจริงๆแล้ว ธรรมชาติไม่เกี่ยวข้องกับการเอาหรือการสละอยู่แล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ มโนล้วนๆว่า เราเป็นเจ้าของมัน
เราเป็นเจ้าของอารมณ์ เราเป็นเจ้าของความคิด
ซึ่งทั้งคู่ต่างพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติที่มาแล้วก็ไป มาแล้วก็ไป

เมื่อไรที่เราไปจริงจังกับอารมณ์และความคิดเหล่านั้นมากเกินไป
ตัวเราก็จะจมอยู่กับมัน
ตัวตนที่หนาแน่น ย่อมหนัก
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความทุกข์ที่เกิดในจิตใจตัวเอง อย่างไม่มีใครช่วยได้

จนกว่า

เราจะยอม ……
ยอมรับว่ามันเป็นไปตามธรรมชาติของมัน
มันคือ ชีวิต
และ มันไม่จำเป็นต้องไปจริงจังอะไรกับมัน
เพราะสุดท้ายมันก็จะผ่านไป
สุดท้าย…มันก็เป็นสิ่งให้เรียนรู้ว่า เรายังกำความทุกข์อะไรไว้อยู่
เรายังมีการยึดอะไรอยู่
เรายังอยากได้อะไรอยู่
เรายังคาดหวังสิ่งใดอยู่
เพราะเมื่อเราไม่เอาสิ่งเหล่านี้แล้ว
เราจะไม่จริงจังกับมันอีกต่อไป….​

ถึงแม้จะเป็นอุปสรรคใดๆ
เราจะไม่ทุกข์ร้อนกับมัน
แต่จะค่อยๆแก้ไขให้อุปสรรคเหล่านั้นหายไป
อย่างง่ายดาย…..

……….

การเรียนรู้ในการสละตัวตนภายในเหล่านี้
จะเกิดขึ้นได้ยาก
ถ้าไม่ได้สัมผัส “ความทุกข์”
ซึ่งเป็นสิ่งที่เทวดาไม่สามารถสัมผัสได้
การเกิดมาเป็นมนุษย์ จึง หมายความว่า
เราได้เรียนรู้จากความทุกข์เหล่านี้ และมีปัญญาเพียงพอว่า
การเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย มันคือ ธรรมชาติอย่างนั้นเอง …..มันเป็นของมันอย่างนั้นเอง…
ในเมื่อทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่มีอะไรชัวร์ร้อยเปอร์เซนต์​ ทุกอย่างคือ ความเสี่ยง …
เราก็ต้องเผื่อใจไว้ยอมรับและแก้ไขมันต่อไป…​
โดยไม่จำเป็นต้องเอามายึดว่ามันเป็นของเรา หรือ ไม่ใช่ของเรา อีกต่อไป
ความสำเร็จ คือ ได้ดั่งใจ
ความล้มเหลว คือ ไม่ได้ดั่งใจ

อย่าเอามันมานำทางชีวิต ….​
เพราะเมื่อไร ที่ความไม่แน่นอนมาทำให้ชีวิตไม่ได้ดั่งใจ ….​
มันจะหนักและทำให้เสียแรงไปกับความเครียดมากกว่าการหาหนทางที่ดีกว่าเดิม

ขอบคุณชีวิต
ไม่ประมาทในชีวิต
และใช้ชีวิต ….​

Olive & The 2th

Advertisement

Share your thoughts with us!

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s